Timothy Spall

เรื่องราวฉาวโฉ่ที่ทั้งฮาและแสบสันเป็นหัวใจของภาพยนตร์สืบสวนตลกเหลือร้ายเรื่องนี้ ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย โดยนำเสนอเรื่องราวของเพื่อนบ้านสองคน ได้แก่ ชาวเมืองท้องถิ่นผู้แสนจะหัวโบราณ อีดิธ สวอน (โอลิเวีย โคลแมน) และผู้อพยพชาวไอริชจอมเอะอะโวยวาย โรส กู๊ดดิง (เจสซี่ บัคลีย์) เมื่ออีดิธและชาวเมืองคนอื่นๆ เริ่มได้รับจดหมายสุดแสบซึ่งเต็มไปด้วยถ้อยคำหยาบคายที่ตลกโปกฮาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ที่เวสต์พอยต์ปี 1830 ในช่วงเวลาเช้าตรู่ของฤดูหนาวอันสงบเงียบวันหนึ่ง มีนักเรียนนายร้อยคนหนึ่งถูกพบว่าเสียชีวิต แต่หลังจากศพของเขาส่งไปถึงสถานที่เก็บศพ โศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความป่าเถื่อนโหดร้ายเมื่อมีการค้นพบว่าหัวใจของนักเรียนนายร้อยคนนี้ถูกควักออกไปโดยฝีมือของใครคนหนึ่งที่มีความชำนาญ ด้วยความหวั่นเกรงว่าความเสียหายต่อโรงเรียนทหารที่เพิ่งก่อตั้งครั้งนี้จะลุกลามจนไม่อาจแก้ไขได้ ผู้บริหารของโรงเรียนจึงหันไปพึ่งนักสืบในท้องถิ่นอย่างออกัสตัส แลนดอร์ (คริสเตียน เบล) เพื่อให้มาช่วยไขปริศนาการฆาตกรรม ทว่าด้วยอุปสรรคจากการที่นักเรียนนายร้อยต่างปิดปากเงียบ เขาจึงต้องขอความช่วยเหลือในการคลี่คลายคดีจากนักเรียนนายร้อยบุคลิกแปลกผู้รังเกียจความเข้มงวดของสถาบันทหาร แถมยังมีความหลงใหลในบทกวี ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า เอ็ดการ์ แอลลัน โพ (แฮร์รี เมลลิง) "เดอะ เพล บลู อาย (THE PALE BLUE EYE)" สร้างจากนิยายของหลุยส์ บายาร์ด

ภาพยนตร์ทางทีวีที่อบอุ่นหัวใจนี้เกี่ยวกับไมกี้วัยสิบขวบ ที่มีภูมิหลังยากจน ทำให้เขารู้สึกดูถูกเหยียดหยามซานต้าและคริสต์มาสโดยไม่มีการแยกแยะ

เมื่อดิกส์ (คริสเตียน สเลเตอร์) ตัดสินใจลาออกจากเอฟบีไอ ด้วยความรู้สึกผิดต่อการตายของภรรยาตัวเอง แต่แล้วก็เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้น โดยที่ฆาตกรทิ้งร่องรอยไว้เป็นรูปแบบเดียวกับที่เกิดกับภรรยาของเขา ดิกส์ จึงถูกตามตัวกลับมาเพื่อรับผิดชอบคดีนี้ การสืบสวนทำให้เขาใกล้ชิดกับและตกหลุมรักกับ เออร์ซูล่า สาวสวยลึกลับ (เอลิกา พอร์ทนอย) ที่ทำให้เขาเริ่มระแวงว่าเธอใช่ตัวฆาตกรที่เขากำลังตามล่าอยู่หรือไม่